เอากุ้งฝอยไปตกปลากะพง
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการลงทุนเพียงเล็กน้อย แต่หวังที่จะได้ผลประโยชน์กลับมาจำนวนมาก ซึ่งลงทุนน้อยแต่หวังกำไรมาก
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึง การนำกุ้งฝอยไปเป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่จะได้ปลากะพงที่มีมูลค่าสูงกว่ามากกลับมา
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการลงทุนเพียงเล็กน้อย แต่หวังที่จะได้ผลประโยชน์กลับมาจำนวนมาก ซึ่งลงทุนน้อยแต่หวังกำไรมาก
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึง การนำกุ้งฝอยไปเป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่จะได้ปลากะพงที่มีมูลค่าสูงกว่ามากกลับมา
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง เรื่องที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าไม่ใช่หน้าที่เราก็อย่าไปคลุกคลีหรือไปจัดการเพราะอาจจะทำให้ตนเองเดือดร้อนได้
ที่มาของสํานวน “รัน” ในที่นี้หมายถึง การจิ้ม แหย่ สำนวนนี้เปรียบเปรยถึง การนำไม้สั้นๆไปรันขี้ นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังจะมีความเสี่ยงเรื่องที่ตนเองต้องเลอะเปรอะเปื้อนอีกด้วย
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง จะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นกับความคิดและทัศนคติของตัวเราเป็นผู้กำหนดเลือกที่จะเป็นหากคิดทางบวกก็จะเกิดสุข หากคิดทางลบก็จะเป็นทุกข์แก่ตนเอง
ที่มาของสํานวน ขุนวิจิตรมาตรา ได้ให้คำอธิบายไว้ในหนังสือสำนวนไทยว่า “นรกไม่มีผู้ใดก่อสร้างขึ้น คือไฟโกรธในใจให้เกิดไฟนรกและเผาผลาญเจ้าของไฟที่ให้เกิดขึ้นนั้น เมื่อผู้ใดทำการชั่ว ผู้นั้นจุดไฟนรกขึ้นและผู้นั้นย่อมไหม้ไปด้วยไฟของตนเอง”
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง แกล้งทำเป็นไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดชอบหรือรู้เห็นกับเหตุการณ์นั้นๆ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรียถึง การที่บุคคลเอาหูไปนาที่หนึ่ง และเอาตาไปที่ไร่ที่หนึง นั้นย่อมเหลืแต่ร่างกายที่ไม่สามารถรับรู้เรื่องราวอะไรได้
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง คนที่ทำอะไรไม่จริงจัง ไม่ตั้งใจทำให้ถึงที่สุด หรือเจออุปสรรคนิดหน่อยก็ล้มเลิก
ที่มาของสํานวน คนสมัยโบราณเปรียบคนชนิดนี้ว่า ขนาดกองขี้ไก่ที่มีขนาดเล็ก ยังเหยียบให้ฝ่อหรือแบนไม่ได้
เส้นยาแดงผ่าแปด สํานวนสุภาษิตนี้ หมายความว่า การที่ผ่านเหตุการณ์หนึ่งไปได้อย่างจวนเจียนจนเกือบไม่ทันการณ์
ที่มาของสํานวน สำนวนนี้ มาจากใบยาสูบชนิดหนึ่ง ที่เป็นใบยาเส้นเรียกว่ายาแดง ซึ่งมีลักษณะซอยละเอียดอยู่แล้ว ก็ยังมาผ่าแยกออกมาอีกจนได้ถึง ๘ เส้น ซึ่งจะเล็กละเอียดลงไปอีก เปรียบเปรยถึงความเล็กมากๆ ช่องว่างห่างกันน้อยมาก ซึ่งคำว่า “เส้นยาแดงผ่าแปด” มีความหมายนเหมือนสำนวนฝรั่งว่า “The Thin Red Line”