ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการจะทำอะไรก็ให้ทบทวนดูความสามารถตนเองก่อน ต่อมาประโยคนี้เริ่่มไปใช้ในกรณีเป็นคำดูถูกคนที่ต้อยต่ำกว่า มักใช้ดูถูกผู้ชายที่มีฐานะต่ำต้อยกว่าที่ไปชอบหญิงที่มีฐานะดีกว่า
ที่มาของสํานวน –
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการจะทำอะไรก็ให้ทบทวนดูความสามารถตนเองก่อน ต่อมาประโยคนี้เริ่่มไปใช้ในกรณีเป็นคำดูถูกคนที่ต้อยต่ำกว่า มักใช้ดูถูกผู้ชายที่มีฐานะต่ำต้อยกว่าที่ไปชอบหญิงที่มีฐานะดีกว่า
ที่มาของสํานวน –
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึง ผู้ที่มีฐานะยากจนหรือผู้ที่ไม่สามารถรับภาระใดๆได้มากนัก แต่ไปช่วยเหลือคนอื่นที่ลำบากเหมือนกับตน ทำให้มีสภาพที่แย่ลงไปกว่าเดิม ซึ่งผลสุดท้ายแล้วอาจจะทำให้ย่ำแย่ทั้งคู่
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึง คนที่ตัวเตี้ย ที่ต้องไปอุ้มคนที่มัลักษณะหลังค่อมโดยการโอบมาไว้กับตน จะทำให้ยากลำบากในการอุ้มเนื่องจากคนตัวเตี้ยก็ทรงตัวลำบากยังต้องมาอุ้มคนที่หลังค่อมอีก
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงแม้คนผู้นั้นเป็นลูกจ้างหรือมีความต่ำต้อยทางสังคม ก็ต้องรักษาความดีในตนเองอย่าให้เสียคน
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงแม้คนเราเป็นขี้ข้าทำงานเกี่ยวกับสิ่งไม่ค่อยสะอาดนัก ก็อย่าทำให้เสื้อผ้าเหม็นเหมือนงานที่ทำ
สํานวนสุภาษิตนี้ บ่งบอกให้คนเรานั้นรักชาติบ้านเมืองและเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน แม้เวลามีข้าศึกรุกรานก็ให้ช่วยกันปกป้องประเทศชาติ แม้ต้องสละชีวิตก็ยังดีกว่าต้องให้ประเทศชาติถูกทำลายลงไป
ที่มาของสํานวน มักเป็นสำนวนในอดีตที่พูดถึงในเรื่องราวของการสงคราม
สํานวนสุภาษิตนี้ มีความหมายเหมือนกับ “หัวล้าน ได้หวี” คือการได้สิ่งที่มีค่า แต่กลับเป็นสิ่งที่คนได้ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์กับตนเองได้
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงคนที่ตาบอด แต่ได้แว่นสายตามา ก็ไม่สามารถที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้ (สมัยโบราณไม่มีแว่นตาดำ)
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงหมายถึง การวิตกกังวลหรือแสดงอาการกลัวไปก่อนที่เหตุการณ์จริงจะเกิด ซึ่งเหตุการณ์นั้นๆอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการกังวลจนต้องเป็นไข้ไปก่อน ทั้งๆที่เหตุการณ์นั้นยังไม่ได้เกิดขึ้นเลย
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการจะกำจัดศัตรูต้องทำให้เด็ดขาด อย่าทำครึ่งๆกลางๆ ไม่เช่นนั้นในภายภาคหน้าจะโดนศัตรูกลับมาล้างแค้นได้
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการกำจัดงูพิษ จะต้องตีให้ตายหรือตีให้หลังหัก เพื่องูจะได้สิ้นฤทธิ์อย่างสิ้นเชิงและไม่สามารถกลับมาทำได้ในภายหน้าได้อีก
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่ทำอะไรลงไปแล้วพยายามจะกลบเกลื่อนความผิดไม่ให้คนอื่นไดรับทราบ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงเต่าตนุ เวลาวางไข่ จะขึ้นมาบนหาดทราบแล้วคุ้ยพื้นทรายให้เป็นหลุมแล้ววางไข่ลงไป จากนั้นก็จะคุ้ยทรายกลบลงไปเพื่อป้องกันการพบเจอของสัตว์ร้ายอื่นๆ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่ดูเหมือนว่าจะมีความละเอียดรอบคอบดีแล้ว แต่ความจริงยังมีช่องโหว่ที่เป็นอันตรายที่ยังต้องแก้ไขต่อเพื่อป้องกันความเสี่ยงอีก และบางครั้งใช้เปรียบเปรยถึงการประหยัดในสิ่งที่ที่ไม่ควรประหยัด แต่กลับสุรุ่ยสุร่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงตาข่ายที่มีความถี่ แต่กลับหลวมจนช้างกลับลอดได้ทั้งตัว นั้นคือไม่ถี่ถ้วนจริง
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการทำอะไรครึ่งๆกลางๆ ทำไม่สุดความสามารถ ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามต้องการ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการถ่อเรือโดยใช้ไม้ถ่อตื้นเกินไปกินน้ำไม่ลึก ย่อมทำให้เรือไปไหนไม่ได้ไกล