ไม่พ้นชวด ฉลู ขาล เถาะ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่บุคคลหนึ่งทำอะไรไปแล้วไปไม่ตลอดรอดฝั่ง ต้องวกกลับมาอยู่ที่เดิม
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงปี 12 นักษัตร ที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะวนกลับมาที่เดิมเสมอ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่บุคคลหนึ่งทำอะไรไปแล้วไปไม่ตลอดรอดฝั่ง ต้องวกกลับมาอยู่ที่เดิม
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงปี 12 นักษัตร ที่ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะวนกลับมาที่เดิมเสมอ
สํานวนสุภาษิตนี้ มีคำต่อท้ายคือ “ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ ไม่มีหนี้เขาก็ไม่ทวง” หมายถึงเรื่องที่เล่าๆกันอยู่ อาจจะมีข้อมูลเป็นจริงอยู่บ้าง เพราะไม่เช่นนั้นอยู่ดีๆ คงไม่มีคนพูดขึ้นมาลอยๆได้
ที่มาของสํานวน ปกติสุนัขจะถ่ายบริเวณที่มีความสกปรก ถ้าพื้นที่ใดสะอาดหมามักจะไม่มาถ่าย
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงผู้ที่ไม่รู้จักประมาณตนไปต่อสู้หรือแข่งขัน กับคนที่มีความชำนาญกว่ามาก โดยที่ไม่ได้ศึกษาหรือรู้จักเขาเลย ทำให้พ่ายแพ้อย่างหมดท่า
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงการเอาเรือไปจอดในป่าในบริเวณที่มีเสือดุ หรือเอาไม้เข้าไปแหย่ในกองมอด มักจะมีอันตรายและเกิดความเสียหายตามมา
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงการที่เตรียมพร้อมเตรียมตัวล่วงหน้ามากจนเกินไป ทั้งๆที่เหตุการณ์นั้นยังมีโอกาสเกิดน้อย หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ทำให้ต้องเสียเวลาเสียแรงเปล่าโดยไม่จำเป็น
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงเวลาเดินป่า เมื่อเจอบ่อน้ำแล้วค่อยตัดกระบอก ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัดกระบอกไว้ก่อน เพราะหากไม่เจอบ่อน้ำแล้วจะเสียแรงเปล่า หรือหากยังไม่เจอกระรอก ก็อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้รอ เพราะจะเสียแรงไปเปล่าๆ
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงผู้ที่ไม่มีอำนาจหรือต่ำต้อยกว่าแต่อาจหาญไปต่อกรหรือสู้กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่า ก็จะมีแต่เสียหายหรือได้รับอันตรายและกระทำการไม่สำเร็จ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงไม้ซีกที่มีขนาดเล็กแต่นำไปงัดไม้ซุงที่มีขนาดใหญ่ ก็จะไม่สามารถงัดขึ้นมาได้และไม้ซีกเองก็จะหักด้วย
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงชายที่หลงรักหญิงที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง แต่ตนเองก็ไม่สมหวังกับความรัก โดยได้แต่คอยแอบกันท่าไม่ให้มีชายอื่นมารักหญิงที่ตนเองแอบชอบอยู่
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงมดแดงที่แฝงอยู่ที่พวงมะม่วง แมตัวมดจะไม่ได้กินมะม่วง แต่หากมีใครที่อยากจะเด็ดมะม่วงมากินมดก็จะกัด
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงคนที่ภายนอกดูประพฤติตนดีมีคุณธรรม แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึง คนที่ปากพูดแต่เรื่องศีลธรรม แต่ในมือกลับถือสากกะเบือเพื่อจะทำร้ายคนอื่น
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงต่างคนต่างรุมแย่งที่จะแสวงหาประโยชน์จากสิ่งหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงคนอื่นๆ
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงคนที่มีความเห็นแก่ตัว ที่แย่งของกันเปรียบกับใครที่รุมแย่งได้เร็วกว่า แขนยาวกว่าก็จะโกยประโยชน์ได้มากกว่า
สํานวนสุภาษิตนี้ หมายถึงคนที่ลุ่มหลงสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยคิดว่าเป็นสิ่ที่ดี และหลงผิดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จนตนเองได้รับอันตราย
ที่มาของสํานวน เปรียบเปรยถึงแมงเม่าที่ชอบเล่นกับแสงไฟ แต่เมื่อบินเข้ากองไฟก็จะตาย
สํานวนสุภาษิตนี้ ปัจจุบันได้เพี้ยนมาเป็นคำว่า “แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง” มีความหมายว่าเวลาที่ผู้ใหญ่ไม่อยู่ ผู้น้อยก็จะมีความสนุกสนานร่าเริงเนื่องจากไม่มีคนคอยคุมพฤติกรรม
ที่มาของสํานวน คำว่า “ละเลิง” เป็นคำโบราณ หมายความว่า หลงลืมตัว,คึกคะนอง เปรียบเปรยถึง เมื่แมวไม่อยู่ หนูก็จะมีความคึกคะนองเพราะไม่ต้องกลัวแมวมาทำร้าย